Cycle Syncing ~ มาใช้ชีวิตตามรอบเดือนกันค่ะ

การทำ Cycle Syncing กำลังฮิตมากๆ ในโลกตะวันตกค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นสายออกกำลังกายและรักสุขภาพ

เคยสังเกตมั้ยคะว่า ในรอบ 30 วันของแต่ละเดือน ร่างกายและอารมณ์ของเรามักแปรปรวนไปมา นั่นเป็นเพราะระดับฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายของเรามีขึ้นมีลงตามการทำงานของร่างกายเรานี่แหล่ะค่ะ

ดังนั้น ถ้าเราออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารที่เหมาะสม ตามระดับฮอร์โมนในร่างกายในแต่ล่ะช่วงของเดือน จะทำให้เรามีสุขภาพและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

Cycle Syncing แบ่งช่วงเวลาในแต่ละเดือนของเราเป็น 4 ช่วงค่ะ เรามาเริ่มนับไปด้วยกันนะคะ พร้อมๆกับสิ่งที่ควรทำในแต่ล่ะช่วงด้วยค่ะ

ช่วงที่ 1 ช่วงเมนส์มา (3-7 วัน)

เป็นช่วงที่ฮอร์โมนตก มีแรงน้อยสุด ไม่ค่อยอยากทำอะไร อ่อนไหวง่าย เปราะบางในบางวัน

ควรทานอาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม ผักต้ม อาหารทะเล อาหารที่มีธาตุเหล็ก และโอเมก้า 3 จะช่วยให้อาการปวดเกร็งที่ท้องน้อยลดลง ควรงดกาแฟ คาเฟอีนต่างๆ และแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ

ลดการทำงานหนัก หรืองานที่ต่อเนื่องนานๆ นอนหลับพักผ่อนให้มากๆ ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน โยคะ พีลาทิส ยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย

ช่วงที่ 2 ช่วงก่อนไข่ตก (7-10 วัน)

เป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มมีแรงมากขึ้น ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น อารมณ์ปรกติและมั่นคงขึ้น

ควรทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ อกไก่ ไข่ ปลาแซลมอน ผักสลัด เมล็ดเจีย กิมจิต่างๆ โยเกิร์ต เครื่องดื่มประเภทชาเชียว ชาดำ

เหมาะกับการวางแผนทำอะไรใหม่ๆ ตั้งเป้าหมาย ดูแลและตามใจตัวเองบ้าง ออกกำลังกายได้มากขึ้น เช่น คาดิโอ วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน

ช่วงที่ 3 ช่วงไข่ตก (3-4 วัน)

เป็นช่วงที่ร่างกายมีแรงเยอะสุด ฮอร์โมนทุกตัวพุ่งสูงสุดในรอบเดือน แข็งแรงมั่นคงทั้งร่างกายและจิตใจ

ควรทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น คีนัว โฮลเกรน อะโวคาโด ผักที่มีกากใยสูง ให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงานมากขึ้น

สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย สามารถออกกำลังกายแบบที่ใช้แรงเยอะๆ ได้เลยค่ะ เช่น ชกมวย ปีนเขา หรือออกไปพบปะผู้คน สังสรรค์ ทำกิจกรรมต่างๆ

ช่วงที่ 4 ช่วงก่อนเมนส์มา (10-14 วัน)

เป็นช่วงที่แรงเริ่มตก อารมณ์ปรวนแปร หงุดหงิดง่ายขึ้น

และเป็นช่วงที่อยากอาหารมาเป็นพิเศษ คาร์โบไฮเดรตจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพิ่มขนมหวานเล็กน้อย ทานวิตามินหรืออาหาร ที่มีวิตามิน B C D และน้ำแร่ เช่น ข้าวโอ๊ต ควินัว ข้าวกล้อง ผักสด ผลไม้

ช่วงนี้ ร่างกายจะเหนื่อยกับการออกกำลังกายเร็วขึ้นและเหนื่อยนานขึ้น ควรผ่อนการออกกำลังกายให้เบาลง เปลี่ยนเป็นว่ายน้า หรือโยคะแทน และเป็นช่วงที่ควรสะสางงานการต่างๆ เพิ่มพลังบวกให้รู้สึกสดใสขึ้นด้วยค่ะ

Cycle Syncing อาจจะดูสมเหตุสมผลและมีหลักการ แต่ก็ยังเป็นเรื่องใหม่มากค่ะ นิยมใช้ในกลุ่มนักกีฬาที่ออกกำลังกายและต้องควบคุมอาหาร อีกทั้งอาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายและการมีประจำเดือนของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

ซึ่งในความเป็นจริง เราก็มักจะใช้ชีวิตตามสภาพร่างกายของเราอยู่แล้ว วันปวดท้อง คือวันที่เราจะนอนเยอะ หรือเราจะกินเก่งขึ้นก่อนมีเมนส์ โปรแกรมข้างตันก็มาจากชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว เพียงทำให้เห็นชัดขึ้นเท่านั้น

เพื่อนๆ ชาว Herstories ที่สนใจอาจจะลองนำ Cycle Syncing มาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้นะคะ อย่างน้อย ก็ทำให้เราได้สังเกตและใส่ใจตัวเองอย่างละเอียดขึ้นค่ะ

ขอให้ชาว Herstories มีสุขภาพแข็งแรงและปวดท้องเมนส์น้อยลงนะคะ

อ้างอิง : https://itovi.com/cycle-syncing